กระทรวงแรงงานเปิดโอกาส ! ผู้รับงานไปทำที่บ้านกู้เงินกองทุนฯ สูงสุด 200,000 บาท

กระทรวงแรงงานเปิดโอกาส ! ผู้รับงานไปทำที่บ้านกู้เงินกองทุนฯ สูงสุด 200,000 บาท

กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดโอกาสให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านกู้เงินจากกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน โดยสามารถกู้ได้ทั้งแบบกลุ่มบุคคลและบุคคล แบบบุคคลวงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท กลุ่มบุคคลวงเงินกู้ ไม่เกิน 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 3 ต่อปี เผยปล่อยกู้ไปแล้วกว่า 300 กลุ่ม สร้างรายได้กว่า 119 ล้านบาท

นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานได้ส่งเสริมอาชีพให้กับแรงงานนอกระบบ โดยส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน โดยให้ผู้ที่สนใจเป็นผู้รับงานได้มีการรวมกลุ่มกัน มีการบริหารจัดการกลุ่มให้เข้มแข็ง เพื่อประโยชน์ในการรับงานไปทำที่บ้านอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งลักษณะของการรับงานไปทำที่บ้านจะเป็นการจ้างงานรูปแบบหนึ่งที่ผู้จ้างงานได้ส่งงานให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านเพื่อทำการผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อมหรือแปรรูปสิ่งของตามที่ได้ตกลงกับผู้จ้างงานในบ้านของตนเอง หรือสถานที่มิใช่สถานประกอบกิจการของผู้จ้างงาน และเมื่อทำเสร็จจะส่งคืนสิ่งของหรือผลิตภัณฑ์ให้กับผู้จ้างงาน โดยผู้รับงานไปทำที่บ้านจะต้องได้รับค่าตอบแทนจากผู้จ้างงาน ซึ่งลักษณะของงานที่รับไปทำที่บ้านจะเป็นงานที่ไม่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อน เรียนรู้ง่าย ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้แรงงานคนทำการผลิตมากกว่าเครื่องจักร เป็นการผลิตในครัวเรือนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการให้งานของผู้จ้างงานจะเป็นการตัดขั้นตอน บางขั้นตอน หรือชิ้นส่วนของงานบางชิ้นจากกระบวนการผลิตในสถานประกอบกิจการไปทำการผลิตหรือผลิตทั้งหมด  นอกจากนี้ยังสนับสนุนเงินกู้จากกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้านอีกด้วย ซึ่งเป็นกองทุนหมุนเวียนเพื่อให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้กู้ยืมไปซื้อวัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิตหรือขยายการผลิต สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยคุณสมบัติของผู้กู้เป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านซึ่งมีทั้งแบบบุคคลและกลุ่มบุคคลที่จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน มีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท สำหรับกรณีบุคคล ส่วนกรณีแบบกลุ่มบุคคลจะต้องมีทรัพย์สินหรือเงินทุนในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 บาท มีวงเงินกู้สำหรับบุคคลไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลาชำระคืน 2 ปี และกลุ่มบุคคลมีวงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาท ระยะเวลาชำระคืน 4 ปี กรณีกู้ 50,000-100,000 บาท ชำระคืน 5 ปี วงเงินกู้ 100,001-200,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 3 ต่อปี และมีระยะเวลาพักชำระหนี้เงินต้นไม่เกิน 4 เดือน

นายอนุรักษ์ฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางานแล้วจำนวน 723 กลุ่ม สมาชิกจำนวน 5,118 คน ปล่อยกู้เงินกองทุนฯแล้ว จำนวน 372 กลุ่ม เป็นเงิน 35,036,000 บาท สร้างรายได้ให้กับผู้รับงานไปทำที่บ้านไม่ต่ำกว่าปีละ 132,480,000 บาท หากผู้รับงานไปทำที่บ้านใดสนใจกู้เงิน สามารถยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 ในพื้นที่ที่กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านได้จดทะเบียนจัดตั้งกลุ่ม หรือที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด ในท้องที่ที่กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านได้จดทะเบียนจัดตั้งกลุ่ม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

กรมการจัดหางาน เผยช่วง 7 เดือน จัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศแล้วกว่า 39,000 คน

กรมการจัดหางาน เผยช่วง 7 เดือน จัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศแล้วกว่า 39,000 คน

กรมการจัดหางาน  เผยตัวเลขการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ ช่วง 7 เดือนปี 2561 มีจำนวน39,926 คน โดยเดินทางไปไต้หวันมากสุด 12,608 คน ส่วนใหญ่ทำงานประเภทอุตสาหกรรม ก่อสร้าง และ คนงานทั่วไป

นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานมีภารกิจในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ โดยส่งเสริมให้แรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศอย่างมีศักดิ์ศรีและมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมุ่งส่งเสริมการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในประเทศที่มีศักยภาพ มีโอกาสได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือ เพื่อนำกลับมาใช้ในประเทศโดยเฉพาะในสาขาที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพของประเทศ เช่น ไต้หวัน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี และอิสราเอล เป็นต้น ซึ่งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศที่ถูกต้องมี 5 วิธี ได้แก่ 1.บริษัทจัดหางานจัดส่ง 2.กรมการจัดหางานจัดส่ง(รัฐจัดส่ง) 3.นายจ้างพาลูกจ้างไปทำงานต่างประเทศ 4.นายจ้างส่งลูกจ้างไปฝึกงานในต่างประเทศ 5.คนหางานเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง โดยในปี 2561 มีเป้าหมายจัดส่ง 40,000 คน ในกว่า 10 ประเทศ ซึ่งภาพรวมช่วง 7 เดือนปี 2561 (มกราคม – กรกฎาคม 2561) จัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศแล้ว จำนวน 39,926 คน คิดเป็น 99.81 % โดยจัดส่งไปทำงานไต้หวันมากที่สุด จำนวน 12,608 คน รองลงมาคือ สวีเดน ญี่ปุ่น  เกาหลี อิสราเอล ตามลำดับ ทำงานอุตสาหกรรม ก่อสร้าง และคนงานทั่วไป

อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การไปทำงานในต่างประเทศต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย และต้องเดินทางไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งต้องศึกษาเงื่อนไขในสัญญาจ้างงานอย่างละเอียด โดยสัญญานั้นจะต้องผ่านการรับรองจากสำนักงานแรงงานไทยหรือสถานทูต/สถานกงสุลไทยประจำประเทศนั้นๆ ทั้งนี้ หากผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือส่งไปฝึกงานต่างประเทศได้ มีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับ 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากคนหางานมีข้อสงสัยในการไปทำงานต่างประเทศ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

บิ๊กอู๋ ย้ำ ! นายจ้างจ้างต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน…ผิดกฎหมาย

บิ๊กอู๋ ย้ำ ! นายจ้างจ้างต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน…ผิดกฎหมาย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เตือนนายจ้างที่จ้างแรงงานต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานมีความผิดถูกจับปรับเป็นแสน แนะให้รีบส่งกลับ หากประสงค์จะจ้างขอให้เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีใบอนุญาตทำงานเท่านั้น ด้านกรมการจัดหางานเผยขณะนี้ดำเนินคดีนายจ้างไปแล้วกว่า 100 ราย แรงงานต่างด้าวกว่า 600 ราย

พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน ได้บูรณาการปราบปรามแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย  โดยจัดชุดปฏิบัติการ 113 ทีม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ที่ออกตรวจตรวจสอบ ปราบปราม จับกุมและดำเนินคดีนายจ้าง/สถานประกอบการและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย หลังปิดศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (OSS) กันอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องตามที่ได้ปรากฏเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้  ดังนั้น จึงขอแนะนำนายจ้างว่าหากยังมีแรงงานต่างด้าวทำงานอยู่กับตนเองโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ให้รีบส่งกลับประเทศโดยด่วน อย่าจ้างต่ออีกเป็นอันขาด เพราะมีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องถูกดำเนินคดีมีโทษปรับ 10,000-100,000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี ขณะเดียวกันแรงงานต่างด้าวก็จะมีความผิด มีโทษปรับ 5,000 – 50,000 บาท และเมื่อชำระค่าปรับแล้ว คนต่างด้าวจะถูกส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และห้ามขออนุญาตทำงานภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับโทษ อย่างไรก็ตาม หากนายจ้างจำเป็นจะต้องจ้างแรงงานต่างด้าว สามารถจ้างได้แต่ต้องเป็นแรงงานที่เข้ามาในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีใบอนุญาตทำงานจากกรมการจัดหางานเท่านั้น โดยแรงงาน 3 สัญชาติคือ เมียนมา ลาว กัมพูชา สามารถเข้ามาทำงานได้ตามระบบ MOU

ด้านนายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ขณะนี้ชุดปฏิบัติการทั้ง 113 ชุด ได้ตรวจสอบนายจ้าง/สถานประกอบการไปแล้วจำนวน 1,248 ราย/แห่ง จับกุมดำเนินคดีไปแล้ว 115 ราย/แห่ง ขณะที่ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวไปแล้วจำนวน 24,943 คน จับกุมดำเนินคดีไปแล้ว 641 คน ส่วนใหญ่เป็นเมียนมา 347 คน รองลงมาเป็นกัมพูชา 187 คน ลาว 55 คน เวียดนาม 34 คน และอื่นๆ 18 คน ตามลำดับ ทั้งนี้ หากผู้ใดพบเห็นคนต่างด้าวทำงานผิดกฎหมายหรือพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทำงานของคนต่างด้าว สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ที่ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน หรือโทร.0 2354 1729  สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือโทร. สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า